สื่อการเรียนการสอนของนางสาวมุดจรินทร์
วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
การดัดแปลงอาหาร
การดัดแปลงอาหาร
การดัดแปลงอาหาร หมายถึง การนำอาหารที่รับประทานไม่หมด มาปรุงแต่งเป็นอาหารชนิดใหม่ที่มีรสชาติและลักษณะอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้นำมารับประทนในมื้อต่อไป ช่วยประหยัดเงินในการจัดหาวัตถุดิบมาประกอบอาหาร ประหยัดทรัพยกร จัดเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และยังสร้างสรรค์อาหารให้มีรสชาติแปลงใหม่ตัวอย่างการดัดแปลงอาหาร
๑. ดัดแปลงอาหารที่ปรุงสำเร็จแล้ว เช่นข้าวสวย สามารถนำมาทำข้าวผัด ต้มเป็นข้าวต้ม ข้าวที่ตากแห้งแล้วนำมาคั่วทำขนมข้าวตู
ไข่ต้ม สามารถนำมาทำไข่ลูกเขย ไข่พะโล้ ไข่แปลงโฉม
ผัดผักกาดขาว สามารถนำมาทำปกงจืดผักกาดขาว ใส่ในจับฉ่าย
ไก่ต้ม สามารถนำมาทำแกงเขียวหวาน ไก่ผัดขิง ไก่รวนเค็ม ไก่หย็อง
ถั่วพูลวก สามารถนำมาทำยำถั่วพู ผสมไข่เจียว ผัดถถั่วพูกับหมูสับ
๒. ดัดแปลงจากวัตถุดิบที่เหลือจากการปรุงอาหาร เช่น
น้ำมะขาม ที่เหลือจากการทำแกงส้ม สามารถนำมาทำน้ำมะขาม มะขามอก้ว ปรุงน้ำจิ้มต่างๆได้
เห็ดหูหนู ที่เหลือสามารถนำมาผสมในผัดจืดต่างๆ ผัดเห็ดหูหนูกับไข่ ยำเห็ดหูหนู เป็นต้น
การเก็บอาหาร
การเก็บอาหาร
วัตถุดิบที่ใช้การประกอบอาหารมีทั้งชนิดแห้งและชนิดสด ควรเก็บอาหารให้ถูกวิธีเพื่อให้คุณค่าและรสชาติของอาหารยังอยู่ในการประกอบอาหารควรปรุงให้เพียงพอแก่การรับประทานในแต่ละมื้อ แต่ถ้ามื้อใดอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วมีมากรับประทานไม่หมดในมื้อนั้น เราจึงเก็บให้ถูกวิธี เพื่อให้สามารถนำอาหารมาอุ่นและรับประทานในมื้อต่อไป เพื่อใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จจ่าย เป็นแบบอย่างที่แก่สมาชิกในครอบครัว เป็นการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
การเก็บอาหารก่อนปรุง
จุดประสงค์ของการเก็บอาหารก่อนปรุง เพื่อเก็บรักษาสภาพและคุณค่าของอาหารให้คงเดิมมากที่สุด อาหารสดแต่ละชนิดแยกกันเก็บ ไม่ปะปนกัน บางชนิดต้องเก็บในที่เย็น บางชนิดต้องเก็บในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก๑. อาหารทะเล ไม่ควรล้างทำความสะอาดก่อนเก็บ และเก็บในช่องแช่แข็งที่มีคุณหภูมิต่ำกว่า ๗ องศาเซลเซียส
๒. ผักสดที่มีกลิ่นฉุน ควรแยกเก็บไม่ปนกับผักอื่น อาหารที่มีกลิ่นคาว ควรเก็บใส่กล่องหรือถุงรัดปากถุงให้แน่น
๓. พืชประเภทรับประทานหัว เช่น มันเทส มันฝรั่ง เผือก หอม กระเทียม ควรเก็บไว้ในตะกร้าหรือกล่องที่มีแสงสว่างน้อย มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องการงอกของต้นอ่อน
๔. อาหารตากแห้ง เช่น ปลาเค็ม หน่อไม้จีน กุ้งแห้ง ต้องเก็บใส่ภาชนะที่แห้งสนิทไม่ถูกแสงแดด ถ้าอาหารเริ่มมีความชื้นให้รีบนำออกตากให้แห้งอีกครั้ง หรือเก็บเนื้อสัตว์ที่ตากแห้งไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เพื่อเก็บไว้รับประทานได้นานวันขึ้น
การเก็บอาหารก่อนปรุง
อาหารที่ปรุงสำเร็จแล้วจะสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานถ้าเก็บไว้ในภาชนะที่สะอาดและอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ถ้าเก็บไว้ไม่ดีจะบูดเน่า วิธีการเก็บรักษาอาหารที่ปรุงแล้วมีดังนี้๑. การเก็บอาหารที่ปรุงสุกไว้รับประทานในมื้อต่อไป ควรเก็บอาหารใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เก็บในตู้เย็น เมื่อต้องรับประทานให้นำมาอุ่นอีกครั้ง
๒. อาหารที่เก็บในช่องแช่แข็ง เช่น ไอศกรีม ต้องเก็บที่อุณหภูมิ ๒๔ องศาฟาเรนไฮต์
๓. อารหารประเภทขนมปัง ขนมเค้ก ต้องเก็บใส่กล่องที่มิด ป้องกันอากาศเข้า เพราะโดนลมมากๆ ขนมปังจะแข็งไม่รับประทาน รวมถึงสามารถป้องกันแมลงวัน จิ้งจก หนู มากัดแทะอาหาร ถ้าขนมเค้กแต่งหน้าด้วยครีม ต้องแช่ในตู้เย็น เพื่อให้น่าเค้กคงรูปสวยงามและรสชาติของขนมไม่เปลี่ยนแปลง
๔. ตู้เก็บอาหาร ต้องมีตาข่ายถี่ๆ เพื่อป้องกันแมลงวัน แมลงสาบเข้ามาไต่ตอมหรือสัมผัสอาหาร
๕. การใช้สารเคมีป้องกันหนูและแมลงสาบ จะต้องปิดอาหารภาชนะและอุปกรณ์ในการประกอบอาหารให้มิดชิด มิฉะนั้นสารเคมีอาจจะไปปนเปื้อนกับอาหารได้
การปรุงอาหาร
การปรุงอาหาร
การปรุงอาหาร หมายถึง การนำอาหารดิบมาปรุงแต่งให้เป็นอาหารหรือทำเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน การปุงอาหารนอกจากจะคำนึงถึงการเสียคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ควรคำนึงถึงการปรุงอาหารให้ถูกหลักสุขาภิบาล เป็นทางหนึ่งในการกำจัดเชื้อโรคที่ปะปนมากับอาหารให้หมดไป มีวิธีการพิจารณาดังนี้๑. ใช้ความร้อนสูงในระยะสั้น จะเสียคุณค่าทางโภชนาการน้อย แต่เชื้อโรคบางชนิดที่มีสปอร์ห่อหุ้มตัวจะไม่ตาย เช่น การผัดผักต่างๆ ดังนั้นควรล้างผักให้สะอาดก่อนนำไปผัด
๒. ใช้ความสูงคงที่ในระยะเวลานาน เช่น ต้ม ตุ๋น จะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่จะเสียคุณค่าทางอาหารไปกับความร้อนมาก
๓. ใช้ความร้อนให้เหมาะสมกับอาหารแต่ชนิด อาหารบางอย่างต้องความร้อนสูงเป็นเวลานาน เช่น การตุ๋น การอบ บางอย่างใช้เพียงอุณหภูมิต่ำก็สุกแล้ว เช่น การปิ้ง การย่าง การทอด
หลักการปรุงอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
เสน่ห์ปลายจวักของแม่บ้านนั้นไม่ได้มีอยู่เพียงแค่รสชาติของอาหารเพียงอย่างเดียวแต่ควรคำนึงถึงความสะอาด ความปลอดภัยในการเตรียมและปรุงอาหาร เพื่อเสริมสร้างสุขอนามัยในครอบครัว โดยยดหลัก ๓ ส. ดังนี้ส. ที่ ๑ คือ สงวนคุณค่า การประกอบอาหารที่ดีต้องสงวนคุณค่าทางอาหารไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารมากที่สุด
ส. ที่ ๒ คือ สุกเสมอ เป็การให้ความร้อนทำลายเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับอาหารทุกครั้ง
ส. ที่ ๓ คือ สะอาดปลอดภัย โดยการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของอาหารก่อนซื้อ ขั้นตอนการปรุงโดยใช้เครื่องปรุงที่ปลอดภัยไม่มีสารปนเปื้อน หรือภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหารก็ต้องดูแลให้สะอาดและใช้อย่างปลอดภัย
สิ่งที่ควรรู้ในการประกอบอาาหาร
การประกอบอาหาร หมายถึง การทำอาหารให้สุกด้วยวิธีต่างๆ ทำให้อาหารพร้อมที่จะรับประทาน ได้แก่ การลวก การต้ม การผัด การทอด ฯลฯ ผู้ประกอบอาหาร ควรมีความรู้ความเข้าใจถึงเทคนิควิธีการเก็บรักษาหรือวิธีการปรุงอาหารต่างๆ อย่างสงวนคุณค่า เพื่อให้ได้อาหารที่มีประโยชน์ สะอาด ปลอดภัย และน่ารับประทาน ควรปฏิบัติดังนี้๑. ล้างมือก่อนและหลังปรุงอาหาร
๒. ล้างเนื้อหมู เนื้อวัวทั้งชิ้นใหญ่ๆแล้วหั่นเป็นชิ้นใหญ่หรือชิ้นเล็กตามลักษณะการปรุงอาหารแล้วเก็บใส่พลาสติกเล็กๆก่อนนำไปแช่แข็งในตู้เย็น
๓. ควรแยกเขียงที่ใช้หั่นเนื้อสัตว์ดิบออกจากเขียงที่ใช้หั่นเครื่องปรุงที่ใช้รับประทานสดๆ เพื่ออนามัย ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค
๔. เก็บผักสดไว้ในกล่องผักสด หรือถ้าไม่มีตู้เย็นให้แช่โคนผักไว้ในน้ำเพียงเล็กน้อยคลุมด้วยผ้าชื้นๆหรือใช้ใบตองคลุมก็ได้ ไม่ควรล้างพริกสสดและผักชีก่อนนำไปเก็บเพราะจะทำให้เน่าเร็วขึ้น
๕. การล้างกุ้งควรล้างทั้งเปลือก ส่วนปูและหอยให้นำไปแช่น้ำและเปลี่ยนน้ำบ่อยๆเพ่อให้คายดินและทรายออกมา
๖. การปรุงเนื้อสัตว์ด้วยวิธีการต้มหรือตุ๋นให้ใส่น้ำในปริมาณที่รับประทานได้หมด รับประทานน้ำต้มด้วย เพราะเกลือแร่หรือวิตามินบางส่วนจะละลายอยู่ในน้ำต้มนั้น
๗. การคลุกยำ ควรเตรียมยำให้เรียบร้อย คลุกเครื่องใกล้เวลาเสิร์ฟ รีบคลุกเร็วๆ ไม่ควรเติมนิดเติมหน่อย เพราะน้ำในอาหารจะซึมออกมา ผักจะช้ำทำให้ไม่น่ารับประทาน
๘. การผัด ต้องเตรียมเครื่องปรุงให้เรียบร้อย ใช้ไฟแรงๆ ใส่เนื้อสัตว์ลงผัดให้เกือบสุก แล้วจึงใส่ผัก ไม่ควรผัดนานเกินไป ความอร่อยของผัดอยู่ที่ความกรอบของผัก สีของผักสวยน่ารับประทานและเนื้อสัตว์ต้องนิ่มไม่แข็งกระด้าง
๙. การทอด ควรใช้ไฟปานกลาง ถ้าใช้ไฟอ่อนอาหารจะอมน้ำมัน ถ้าใช้ไฟแรงเกินไปอาหารด้านนอกของอาหารจะไหม้ส่วนด้านในจะไม่สุก
๑๐. การลวกผัก ให้ใส่เกลือหรือน้ำมันลงในน้ำเดือดเล็กน้อย เมื่อลวกผักแล้วให้รีบตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที เพื่อให้ผักกรอบและสีเขียวสวยน่ารับประทาน
๑๑. การทำน้ำต้มกระดูกหมู กระดูกไก่ ควรทุบกระดูกให้แตกแล้วแช่ในหม้อน้ำธรรมดาประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อความหวานของกระดูกซึมออกมาในน้ำมากๆแล้วจึงยกตั้งไฟอ่อนๆเคี่ยวนานๆจนน้ำงวดลงไปเหลือ ๑ ใน ๓ ยกลงกรอกเอากระดูกออก ตั้งน้ำต้มกระดูกอีกครั้ง ใส่รากผักชี ขึ้นฉ่าย ผักกาดสด เคี่ยวต่อไปจนน้ำงวดลงไปจนน้ำเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
๑๒. การทำแกงจืดต้องใช้ไฟแรงๆเมื่อใส่น้ำซุปแล้วให้ใส่เนื้อก่อน ถ้าเป็นเนื้อปลาต้องระวังให้น้ำเดือดจริงๆมิฉะนั้นจะทำให้น้ำแกงเหม็นคาว เมื่อเดือดและปรุงตามต้องการแล้ว จึงใส่ผัก
๑๓. ใช้น้ำอุ่นจัดในการคั้นน้ำกะทิ เพราะจะช่วยให้คั้นน้ำกะทิได้มันมากกว่าการคั้นด้วยน้ำธรรมดา
๑๔. การต้มไข่ ควรล้างเปลือกไข่ให้สะอาดก่อนนำไปต้ม ใส่น้ำลงในหม้อ ค่อยๆหย่อนไข่ลงในน้ำ อย่าให้ไข่ร้าวหรือแตก ใส่เกลือลงในหม้อประมาณ ๒ ช้อนชาต่อไข่ ๔-๕ ฟอง เพื่อให้เปลือกไข่ล่อน ปอกเปลือกง่าย ยกหม้อตั้งบนไฟระดับปานกลาง ถ้าใช้ไฟแรงไข่จะแตก ต้มไข่ประมาณ ๗-๑๐ นาที ตักไข่ขึ้นแช่น้ำเย็นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่สุกเพิ่มขึ้นจนเกิดวงแหวนสีเขียวคล้ำรอบไข่แดง
๑๕. ควรปรุงอาหาร ๒-๓ อย่างในเวลาเดียวกัน เพื่อประหยัดเวลาในการประกอบอาหาร
๑๖. ถ้ามีภาชนะในการปรุงอาหารจำกัด เช่น มีกระทะหรือหม้อเพียงใบเดียว ผู้ประกอบอาหารควรจัดลำดับการปรุงอาหารให้ดี จะได้ไม่ต้องภาชนะบ่อยๆ
๑๗. ขณะรอให้อาหารสุกควรเก็บล้งภาชนะที่ใช้แล้ว เพื่อลดเวลาในการเก็บล้างหลังปรุงอาหารเสร็จ จะช่วยให้ครัวสะอาดน่ามองขึ้น
๑๘. การหุงข้าว
การหุงข้าวขาว ควรเก็บสิ่งสกปรกหรือเปลือกข้าวที่ปนมากับข้าวออกให้หมด ใส่น้ำน้อยๆซาวข้าวเร็วๆ ถ้าข้าวสะอาดอยุ่แล้วให้ซาวเพียวฃงครั้งเดียว เติมน้ำ ถ้าข้าวเก่าใช้น้ำ ๒ ส่วนต่อข้าว ๑ ส่วน ถ้าข้าวใหม่ใช้น้ำ ๑.๕ ส่วนต่อข้าว ๑ ส่วน ควรหุงด้วยหม้ออไฟฟ้าหรือหุงด้วยการไม่เช็ดน้ำโดยการนึ่ง เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
การหุงข้าวกล้อง การหุงข้าวกล้องห้นิ่มนวลน่ารับประทาน ต้องใช้ข้าว ๑ ส่วน ต่อน้ำ ๑.๕ ส่วน ซึ่งใช้น้ำมากกว่าการหุงข้าวขาว ซาวข้าวเพียงครั้งเดียว แช่ทิ้งไว้ประมาณ ๑๐ นาที เพื่อให้เมล็ดข้าวนุ่มขึ้น นำไปหุง พอสุกข้าวกล้องนี้จะนิ่มนวลขึ้น รับบประทานอร่อย ไม่แข็งและยังคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าข้าวขัดสีจนขาว
การนึ่งข้าวเหนียว ควรเก็บสิ่งสกปรกหรือเปลือกข้าวที่ปนมากับข้าวออกให้หมด ซาวข้าวโดยน้ำน้อยๆน้ำลงใส่ลงในลังถึงหรือหวดไม้ไผ่ นำไปนึ่งในภาชนะที่เดือดจัดประมาณ ๒๐ นาที เมื่อข้าวเหนียวสุก ให้ใช้พายไม้กลับข้าวเหนียวด้านล่างขึ้นไว้ด้านบน นึ่งต่ออีกประมาณ ๕ นาที จะช่วยให้ข้าวเหนียวนุ่มน่ารับประทานมากขึ้น
๑๙. การปรุงอาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูปที่บรรจุมาในกระป๋องนับเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับสังคมเมืองในปัจจุบันเพราะมีความสะดวกสบายไม่เสียเวลา อาหารกระป๋องที่มีคุณภาพต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีสนิม หรือโป่่งพอง ผลิตใหม่ๆ การรับประทานอาหารกระป๋อง เมื่อเปิดฝาแล้วต้องเทใส่ภาชนะอื่นก่อน อุ่นให้เดือดประมาณ ๕ นาที ห้ามอุุ่นอาหารทั้งกระป๋อง เพราะอาจจะเกิดอันตรายจากสารเคลือบโลหะที่ละลายปนมาในอาหาร อาหารกระป๋องหากเปิดแล้วรับประทานไม่หมด ต้องเก็บใส่ภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นจะทำให้อาหารกระป๋องไม่เสียเร็ว
๒๐. หลังทำอาหารเสร็จ ควรเช็ดเตา และเช็ดห้องครัวให้สะอาดทุกครั้ง
๒๑. การประกอบอาหารควรซื้อวัตถุดิบกับการปรุง ไม่เหลือทิ้ง เป็นการลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง และควรประกอบอาหารให้มีปริมาณให้เพียงพอกับความต้องการในแต่ละมื้อ
มารยาทของผู้ประกอบอาหาร
๑. ใส่ผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผมให้เรียบร้อย๒. ตัดเล็บและล้างมื้อให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร ก่อนหยิบจับอาหาร หลังการใช้ห้องน้ำ หรือหลังจับขยะ
๓. ในขณะปรุงอาหารไม่ควรสวมแหวน กำไล หรือเครื่องประดับ
๔. ไม่ใช้นิ้วมือแคะจมูกหรือสัมผัสส่วนต่างๆของร่างกายที่มีเชื้อโรค
๕. ไม่ควรทัพพีสำหรับคนอาหารตักอาหารเพื่อชิม ควรใช้ทัพพีตักอาหารใส่ช้อนที่จะชิม
๖. อย่าชิมอาหารบ่อยเกินไป พยายามกะปริมาณเครื่องปรุงที่จะเติมให้พอดี หรือชิมเพียง ๒-๓ ครั้งเท่านั้น
๗. เตรียมเครื่องปรุงและเครื่องใช้ให้พร้อมเพื่อความสะดวกในการใช้ง่นได้ทันท่วงที
๘. เมื่อหั่นหรือสับของสดแล้ว ควรนำอาหารออกจากเขียง เพื่อไม่ให้อาหารติดกลิ่นเขียง
๙. หมู เนื้อ หรืออาหารอื่นๆ ที่สับละเอียด ไม่ควรใช้มีดขูดอาหารที่ติดเขียง
๑๐. เมื่อปอกหรือหั่นอาหารนั้นๆ เสร็จแล้ว อย่าทิ้งเปลือกหรือเศษอาหารต่างๆ ไว้เกลื่อนควรเก็บให้เรียบร้อย จึงเริ่มทำสิ่งอื่นต่อไป
๑๑. ใช้ทัพพีหรือที่คีบอาหารหยิบอาหาร อย่าใช้มือหยิบจับอาหารโดยตรง
วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
การเลือกใช้และการทำความสะอาดภาชนะ
การเลือกใช้และการทำความสะอาดภาชนะ
ในปัจจุบันภาชนะที่ใช้สำหรับประกอบอาหาร หลากหลายชนิด เราควรศึกษาคุณสมบัติของวัสดุ วิธีใช้ ตลอดจนวิธีทำความสะอาดและเก็บรักษาให้ถูกวิธี เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและอายุการใช้งานได้นานการเลือกใช้ภาชนะ
๑. ภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหารภาชนะและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการประกอบอาหาร จะต้องเลือกใช้ชนิดที่มีความคงทน แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย ไม่มีวัตถุมีพิษเคลือบหรือนำมาทำเป็นส่วนประกอบของภาชนะ เกณฑ์ในการเลือกภาชนะและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร มีดังต่อไปนี้
๑.๑ วัสดุที่นำมาทำภาชนะและอุปกรณ์จะต้องไม่เป็นพิษต่อผู้ใช้ มีความคงทนต่อการกัดกร่อนกรดหรือด่าง
๑.๒ หากจำเป็นต้องใช้ไม้มาทำเป็นภาชนะและอุปกรณ์ในการประกอบอาหารควรทำจากไม้เนื้อแข็ง
๑.๓ ถ้าใช้โลหะมาทำภาชนะและอุปกรณ์ โลหะนั้นต้องไม่เกิดสนิม
๑.๔ ภาชนะที่ใช้ในครัวต้องทำความสะอาดง่าย ภายในภาชนะเรียบ ไม่มีร่อง ไม่มีช่องว่างที่ทำให้อาหารติดค้างอยู่
๑.๕ จาน ชาม สำหรับใส่อาหาร ควรเป็นกระเบื้องเคลือบไม่มีลาย ไม่มีสีสันภายใน
๑.๖ หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะที่เป็นโลหะในการปรุงหรือบรรจุอาหารมราเป็นกรดหรือรสเปรี้ยว
๒. ภาชนะบรรจุอาหาร
การซื้ออาหารจากร้านค้า ผู้ขายมักจะใช้สิ่งหาง่ายและราคาถูกมาห่อหรือบรรจุอาหารจึงอาจมีสิ่งปนเปื้อนที่ภาชนะ ดังนั้นจึงควรศึกษาวิธีการเลือกภาชนะบรรจุอาหาร ดังนี้
๒.๑ การห่ออาหารด้วยใบตองสด ใบตองแห้ง ใบบัว ก่อนใช้ควรทำความสะอาดด้วยการล้าง เช็ด ผึ่งให้แห้ง
๒.๒ ไม่ควรซื้อาหารที่ปรุงแล้วหรืออาหารสดที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษที่ใช้แล้ว
๒.๓ พลาสตติก เช่น ถุง ขวด ควรใช้ให้เหมาะกับอาหาร
๒.๔ ภาชนะบรรจุอาหาร ควรใช้จากวัสดุธรรมชาติ
การทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว
หลังจากประกอบอาหารแล้ว ควรทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆให้สะอาดและเก็บรักษาให้ถูกวิธี ในการปรุงอาหารมีวิธีการดูแลรักษาดังนี้๑. ถ้วย จาน ชาม เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ควรใช้กระดาษชำระกวาดเศษอาหารและเช็ดคราบมันบางส่วนออก แยกจาน ชาม แต่ละชนิดออกจากกัน ล้างด้วยน้ำเปล่า ๑ ครั้ง แล้วล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ไม่ควรใช้ฝอยโลหะถูจานพลาสติกหรือจานที่มีลวดลาย หลังจากนั้นล้างน้ำเปล่า ๒-๓ ครั้ง คว่ำจานไว้ในที่คว่ำจาน วางผึ่งไว้ให้แห้ง จึงเก็บเข้าตู้
๒. เครื่องแก้ว ไม่ควรล้างรวมกับจานอาหาร ล้างด้วยน้ำยาล้างจาน แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าจนหมดคราบ ถ้าล้างด้วยน้ำส้มสายชู้ต้องด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
๓. เครื่งอลูมิเนียม ใช้ลวดฝอยจุมน้ำยาล้างจาน ขัดจนขึ้นเงา ไม่ควรขัดภายในของภาชนะที่สัมผัสกับอาหาร เพราะจะทำให้เกิดรอย ถ้าภายในหม้อไม่ออก อาจใช้น้ำผสมน้ำกรดอ่อนๆ เช่น น้ำส้มสายชู เปลือกสับปะรด มะขาม มะนาว ใส่ลงในหม้ออลูมิเนียม ต้ทจนเดือดแล้วจึงนำมาล้างให้สะอาด
๔. เครื่องทองเหลือง ใช้ผลไม้เปรี้ยว เช่น มะขาม สับปะรด มะม่วง มะนาว ถูให้ทั่วแล้วผ้าแตะทราละเอียดหรือขี้เถ้าผสมน้ำมะนาวขัดจนเงางาม แล้วล้างด้วยวิธีปกติ
๕. เครื่องเงิน เช่น ช้อนส้อม ทัพพี ถ้วย ใช้ผ้าชุบขี้เถ้าผสมน้ำมะนาวหรือดินสอพองผสมกับน้ำมะนาว ขัดถูจนเงางาม แล้วล้างด้วยงิธีปกติ
๖. เครื่องเหล็ก ขัดด้วยกระดาษทราย แล้วขัดด้วยลวดฝอยกับน้ำยาล้างจานอีกครั้ง ล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้ง เคลือบด้วยน้ำมันพืชป้องกันเกิดสนิม
๗. เครื่องพลาสติก ควรใช้กระดาษชำระเช็ดคราบมันออกครั้งหนึ่งก่อน แล้วนำไปล้างในน้ำออุ่นผสมกับน้ำยาล้างจาน ล้างน้ำสะอาดจนหมดคราบมัน ไม่ควรนำพลาสติกตากแดด เพราะจำทำให้บิดงอเสียรูปได้
๘. กระเบื้องที่เปื้อนมากๆ ให้นำน้ำไปตั้งไฟร้อนๆจนควันขึ้น แล้วราดน้ำลงไป ใช้แปรงหรือเศษผ้าขัดถูจนสะอาด ล้างน้ำสะอาด ๒-๓ ครั้ง เพื่อให้หมดกลิ่น
๙. มีดที่เป็นสนิม ใช้มะนาวกับเกลือขัดถูจะช่วยให้หมดคราบสนิม
๑๐. เขียง ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน และต้องผึ่งเขียงในที่มีแดดรำไรให้แห้งสนิทก่อนเก็บเข้าที่ ไม่ควรนำเขียงไปตากแดด เพราะจะทำให้เขียงแตกร้าวได้ ถ้าเขียงชื้นจะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย ถ้าเป็นเขียงพลาสติกควรล้างด้วยน้ำยาล้างจานให้หมดคราบ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
๑๑. ถังขยะ ควรมีฝาปิดเพื่อกันหนู แมลงวัน และแมลงสาบ ทุกครั้งหลังเทขยะแล้ว ควรล้างให้สะอาด ถ้ามีกลิ่นให้ใช้กระดาษเผาใส่ลงในถังขยะ รีบปิดฝา หรือใช้ถ่านละเอียดใส่ลงไปเพื่อดูดซับกลิ่น
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ห้องครัวที่สะอาดปลอดภัย
ห้องครัวที่าสะอาดปลอดภัย
ครัวทุกแห่งไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ ต้องแบ่งพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วน ได้แก่ ส่วนเก็บอาหาร ส่วนล้าง และส่วนปรุงอาหาร ต้องใช้เครื่องใช้ในครัวและพื้นที่ในครัวให้สะอาดตลอดเวลา เพื่อช่วยให้เตรียมอาหารได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยข้อเสนะแนะในการใช้ห้องครัวอย่างปลอดภัย มีดังนี้
๑. เก็บเครื่องครัวที่มีขนาดใหญ่ ไว้ในส่วนล่างของตู้เก็บภาชนะ
๒. เลือกขนาดมีดให้เหมาะสมกับการใช้งาน
๓. เช็ดพื้นห้องครัวให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
๔. ศึกษาคู่มือการใช้เครื่องไฟฟ้าและเครื่องมือต่างๆให้เข้าใจก่อนใช้งานเพิ่อลดการอุบัติเหตุ
๕. ก่อนใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าควรตรวจความเรียบร้อยของสายไฟและเช็ดมือให้แห้งก่อนเสียบปลั๊กไฟ
๖. ใช้ผ้าจับของร้อนช่วยในการจับหูหม้อเมื่อยกลงจากเตา เพื่อปกกันไม่ให้มือพองหรือหม้อหลุดมือ
๗. เก็บน้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาดให้พ้นมือเด็ก
๘. ควรติดตั้งตู้อุปกรณ์และยา
มาตรฐานกับชีวิตประจำวันและมาตรฐานสากล
มาตรฐานกับชีวิตประจำ
การดำเนินชีวิตประจำวันในทุกวันนี้ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับมาตรฐาน เราจึงต้องเรียนรู้เพื่อให้เป็นผู้บริโภคหรือผู้ผลิตที่ฉลาดเลือกซื้อ เลือกใช้ เลือกผลิตสินค้าผู้อุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติ ดำเนินการด้านมาตรฐานเพื่อคุ้มครองโลก รักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาอุตสากรรมให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศในตลาดโลกได้และสร้างธรรมเนียมซื้อขาย โดยมาตรฐานที่ สมอ. กำหนดขึ้นได้แก่
๑. มาตรฐานระดับชุมชน ได้แก่ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) สมอ. ได้กำหนดขึ้น เพื่อรับรองผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในท้องถิ่น ชุมชน แลละผลิตภัณฑ์ตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)
๒. มาตรฐานระดับประเทศ ได้แก่ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ มอก. ให้การรับรองควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภค
มาตรฐานสากล
สมอ. ได้ร่วมกำหนดมาตรฐานกับองค์กรสากลที่สำคัญ เช่น องค์กรมาตรฐานระหว่างประเทศ (ISO) ระบบมาตรฐานสากลที่ สมอ. ร่วมกำหนด เช่น ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9000 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14000 และระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมอก.๑๘๐๐๐
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)